การคุมกำเนิดในปัจจุบันนี้มีอยู่ด้วยกันมากมายหลายวิธี แต่ถ้าพูดถึงวิธีที่มีประสิทธิภาพมากๆ ก็คงหนีไม่พ้นการฝังยาคุมแน่นอน เพราะถือเป็นหนึ่งในวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูงอีกด้วย ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้นานหลายปี สำหรับใครที่สงสัยว่ายาคุมแบบฝังมีแบบไหน แล้วช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้แบบไหน ยังไงบ้าง บทความของเรารวบรวมข้อมูลไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ยาคุมกำเนิดแบบฝังมีกี่แบบ อะไรบ้าง
ยาฝังคุมกำเนิดเป็นยาคุมกำเนิดแบบชั่วคราว ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ยาวนานหลายปี ยาฝังคุมกำเนิดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ
1. ยาฝังคุมกำเนิดแบบ 3 ปี
ยาฝังคุมกำเนิดแบบนี้จะมีลักษณะเป็นแท่งยาเรียวยาว ขนาดประมาณ 2 x 40 มิลลิเมตร บรรจุฮอร์โมนที่ช่วยป้องกันการคุมกำเนิดได้ยาวนานหลายปี ช่วงสัปดาห์ที่ 5 หลังจากฝังยาคุมไปแล้วตัวยาจะปล่อยฮอร์โมนออกมา 60 – 70 ไมโครกรัมต่อวัน แล้วจำนวนออร์โมนในแต่ละวันจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่ผ่านไป จนกระทั่งเหลือเพียง 25 – 30 ไมโครกรัมต่อวัน ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดคือ 3 ปี
2. ยาฝังคุมกำเนิดแบบ 5 ปี
ยาฝังคุมกำเนิดแบบ 5 ปีจะมีลักษณะเป็นแท่งยา 2 แท่ง มีความยาวกว่ายาคุมกำเนิดแบบ 3 ปี เล็กน้อย ขนาดประมาณ 2.5 x 43 มิลลิเมตร ช่วยคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพดี ป้องกันการตั้งครรภ์ได้นานสุงสุดถึง 5 ปี หลังฝังยาคุมแล้วตัวยาจะค่อยๆ ปล่อยฮอร์โมนออกมาทีละเล็กน้อย ประมาณ 40 – 100 ไมโครกรัมต่อวัน วิธีนี้มีความปลอดภัยมาก แทบไม่มีความเสี่ยงใดๆ การฝังยาคุมเหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดเป็นระยะเวลานานๆ
ยาฝังคุมกำเนิดทำงานยังไง
เมื่อเราฝังยาคุมแล้ว ยาคุมจะค่อยๆ ออกฤทธิ์โดยการปล่อยฮอร์โมนจากแท่งยาออกมาช้าๆ อย่างต่อเนื่อง ฮอร์โมนในแท่งยาฝังคุมกำเนิดจะช่วยในการคุมกำเนิด โดยมีคุณสมบัติยับยั้งการตกไข่และจะมีผลให้ปริมาณมูกปากมดลูกมีความข้นมากขึ้น ทำให้อสุจิยากที่จะเคลื่อนที่ผ่านเข้าเข้าไปปฏิสนธิ จึงช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดี
ฝังยาคุมแล้ว ยาคุมจะออกฤทธิ์ตอนไหน?
การฝังยาคุมสามารถออกฤทธิ์ได้ทันทีตั้งแต่ตอนที่ถูกฝังเข้าสู่ผิวหนังของเรา ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ภายหลังจากฝังยาคุมได้ 7 วัน ประสิทธิภาพของยาคุมที่ฝังอาจส่งผลเร็วกว่านี้หากฝังยาคุมในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ช่วงเวลาไหนเหมาะกับการฝังยาคุมมากที่สุด
การฝังยาคุมภายในช่วง 5 วันแรกนับตั้งแต่วันที่มีประจำเดือนเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการคุมกำเนิด เพราะยาฝังคุมกำเนิดจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันที
ฝังยาคุม ดีไหม: รู้จัก..ยาฝังคุมกำเนิด อีกหนึ่งวิธีคุมกำเนิดที่มีความปลอดภัย
วิธีการคุมกำเนิด: คุมกำเนิดแบบไหนดี?
ข้อควรระวังในการฝังยาคุม
การฝังยาคุมเป็นวิธีหนึ่งในการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูงมาก แต่ไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อีกทั้งยังไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ดังนั้นจึงควรใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัย ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันโรคติดต่อและลดดอกาสในการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง