ดอกไม้เป็นตัวแทนบอกความรู้สึก ที่ไม่ได้ใช้เพียงแต่งานรื่นรมย์ เช่น งานแต่งงาน พิธีจบการศึกษา งานครบรอบแต่งงาน หรือวันที่เป็นมงคลอื่นๆเท่านั้น แต่ยังถูกนำมาใช้ประดับประดาในงานศพ เพื่อใช้แสดงความไว้อาลัยและมอบความรักให้แก่ผู้จากไป เพราะมีความเชื่อตั้งแต่อดีตว่า การวางดอกไม้ที่หลุมศพจะทำให้พระผู้เป็นเจ้ามารับดวงวิญญาณที่นอนหลับอย่างเป็นสุขอยู่ท่ามกลางดอกไม้ศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้กลิ่นหอมของดอกไม้ยังช่วยกลบกลิ่นของร่างกายที่เน่าเสียไม่ให้ส่งกลิ่นออกมานั่นเอง เนื่องจากในสมัยอดีตยังไม่มีสิ่งที่ช่วยป้องกันกลิ่นศพออกมารบกวน จนปัจจุบันนี้ดอกไม้ก็ยังถูกนำมาตกแต่งอย่างประณีตเพื่อไม่ให้งานศพรู้สึกโศกเศร้ามากจนเกินไป และดอกไม้แต่ละชนิดยังแฝงความหมายที่ลึกซึ้งเอาไว้ด้วย ส่วนดอกไม้แต่ละชนิดจะมีความหมายว่าอย่างไรกันบ้าง ไปดูกันค่ะ
- ดอกเบญจมาศ
ในงานศพเรามักจะเห็นเขาใช้ดอกเบญจมาศกันบ่อยๆ เนื่องจากเป็นดอกไม้ที่เหมาะกับการใช้แสดงความไว้อาลัยที่สุด ซึ่งไม่ใช่ในประเทศไทยเท่านั้นที่นิยมใช้ดอกเบญจมาศ ต่างประเทศก็ใช้ดอกไม้ชนิดนี้กันเยอะเหมือนกัน โดยความหมายของดอกเบญจมาศในประเทศฝั่งเอเชีย หมายถึง ความตาย, ความโศกเศร้าเสียใจ, สัจจะ และความซื่อสัตย์ ส่วนประเทศทางฝั่งยุโรป หมายถึง ความตาย, ความอาลัย, ความซื่อสัตย์, ข้อเท็จจริง และการแสดงความเคารพ
- ดอกกุหลาบ
ดอกกุหลาบไม่ได้เป็นตัวแทนของการบอกรักในวันวาเลนไทน์เท่านั้น แต่ยังใช้บอกรักคนที่จากไปในงานศพได้ด้วยเช่นกัน ด้วยความที่ดอกกุหลาบมีหลายสี แต่ละสีก็มีความหมายต่างกันไป ทำให้เหมาะแก่การนำมาประดับไว้ในงานศพ เพื่อเป็นตัวแทนบอกเล่าความรู้สึก ความรักอันงดงามที่มีต่อผู้จากไป
- ดอกไฮเดรนเยีย
ดอกไฮเดรนเยียเป็นอีกหนึ่งดอกไม้ที่นิยมใช้ประดับตกแต่งในงานศพทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เนื่องจากมีความหมายว่า “ขอบคุณ” เหมือนเป็นการสื่อถึงผู้ล่วงลับว่า ขอบคุณช่วงเวลาดีๆที่ผ่านมา, ขอบคุณที่สร้างความทรงจำดีๆร่วมกัน, ขอบคุณความรักที่หยิบยื่นให้, ขอบคุณมิตรภาพอันสวยงาม, ขอบคุณที่เราได้มาเจอกัน
- ดอกคาร์เนชั่น
ดอกคาร์เนชั่นสามารถใช้ได้ทั้งในงานมงคลและงานไว้อาลัย เพราะดอกชนิดนี้มีหลายสีสัน แต่ละสีก็มีความหมายต่างกันไป เช่น สีขาว หมายถึง ความรักที่บริสุทธิ์, สีชมพู หมายถึง จะจดจำเธอไว้ในดวงใจตลอดกาล ดอกคาร์เนชั่นสองสีนี้จึงเหมาะกับการนำมาประดับตกแต่งงานศพเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ทางฝั่งยุโรปยังนิยมนำดอกคาร์เนชั่นมาวางไว้บนโลงศพหรือโยนลงหลุมศพ เพื่อเป็นการแสดงความอาลัยครั้งสุดท้ายต่อผู้ล่วงลับอีกด้วย
- ดอกลิลลี่
ดอกลิลลี่เป็นอีกหนึ่งดอกไม้ที่นำมาใช้ทุกโอกาสสำคัญต่างๆ รวมถึงงานศพด้วย ดอกลิลลี่เป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความสดใสและความบริสุทธิ์ ความสดใสของดอกลิลลี่จึงช่วยบรรเทาความโศกเศร้าในงานศพได้ อีกทั้งทางฝั่งยุโรปยังเชื่อกันว่าหากมอบดอกลิลลี่ให้ผู้ล่วงลับจะเป็นการช่วยชะล้างจิตวิญญาณของพวกเขาให้กลับมาบริสุทธิ์ก่อนจะเดินทางไปพบพระเจ้า
- ดอกเยอบีร่า
เรามักจะพบดอกเยอบีร่าในการสื่อถึงความรักทั้งคนที่มีชีวิตอยู่และคนที่จากไปแล้ว ด้วยความที่เป็นดอกไม้ปลูกง่าย และมีความหมายดี จึงถูกนำมาใช้ในงานศพเหมือนดอกไม้ชนิดอื่น เพื่อสื่อความหมายว่าคุณจะมอบความรักที่ซื่อสัตย์และมั่นคงให้พวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะจากไปแล้วก็ตาม
- ดอกกล้วยไม้
ส่วนใหญ่เรามักจะนำดอกกล้วยไม้มากราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อนำมาใช้ในงานศพ ดอกกล้วยไม้จะสื่อความหมายถึงความรักและความระลึกถึงที่มีต่อผู้ล่วงลับ โดยเฉพาะชาวตะวันตกเชื่อว่าดอกกล้วยไม้สีขาวและสีชมพูนั้นแสดงถึงความเห็นอกเห็นใจและความรักชั่วนิรันดร์
- ดอกหน้าวัว
หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับดอกหน้าวัวบนพวงหรีดกันดีอยู่แล้ว เพราะมีความหมายว่า “หญิงสาวผู้เหงาเศร้า” แต่สำหรับแง่ของความรักแล้ว ดอกหน้าวัวหมายถึง “ความรักที่อดทนและมั่นคง ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง” เมื่อนำมาใช้ประดับตกแต่งในงานศพก็จะสื่อความหมายถึงการส่งมอบความรักที่มั่นคงและไม่มีวันเปลี่ยนแปลงให้แก่ผู้ล่วงลับเป็นครั้งสุดท้าย
- ดอกสแตติส
ดอกสแตติสมีความหมายดีๆว่า “ความรู้สึกดีๆที่คงอยู่ตลอดไป” เมื่อนำมาใช้ในงานศพก็สื่อความหมายได้ว่า “ความทรงจำและความรู้สึกดีๆที่ผู้ล่วงลับเคยมอบให้แก่ครอบครัว ญาติ และเพื่อนนั้นจะยังคงอยู่ตลอดไป” หรือ “ความรู้สึกดีๆที่มีต่อผู้ล่วงลับจะคงอยู่ในความทรงจำตลอดไป” ความหมายของ ดอกไม้งานศพ ของดอกดอกสแตติส